10 อันดับรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก มาจากประเทศอะไรบ้าง?
.
กว่าเกือบ 60 ปีที่โลกได้ถือกำเนิดสุดยอดม้าเหล็ก “รถไฟความเร็วสูง” ระบบคมนาคมที่ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางของผู้คนให้สั้นลง ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนการเดินทาง โดยประเทศแรกที่เริ่มพัฒนาคือ ญี่ปุ่น จนในปัจจุบันประเทศทั่วโลกต่างเร่งพัฒนาและผลิตรถไฟความเร็วสูงในบ้านของตนเอง แต่ประเทศไหนกัน! ที่สามารถพัฒนารถไฟความเร็วสูง ให้วิ่งได้เร็วที่สุด วันนี้จะพาไปดู 10 อันดับรถไฟความเร็วสูงที่เร็วที่สุดในโลก จะมีอะไรบ้าง? และมาจากประเทศใดบ้าง? ไปดูกัน!
.
1.Shanghai Maglev จากประเทศจีน
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 431 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (267 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เป็นรถไฟแม่เหล็กลอยความเร็วสูงขบวนแรกที่วิ่งให้บริการเชิงพาณิชย์ด้วยความเร็วสูงสุด และเร็วที่สุดในโลกด้วย ซึ่งเคยทดสอบได้ความเร็วสูงสุดถึง 501 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (311 ไมล์ต่อชั่วโมง) ให้บริการอยู่ในตัวเมืองรอบนอกเซี่ยงไฮ้ เชื่อมต่อระหว่างสนามบินนานาชาติชางไห่ ผู่ตง มายังสถานีหล่งหยาง โดยใช้ระยะเวลาเพียง 8 นาที ลักษณะเด่น คือ เป็นรถไฟความเร็วสูงพลังแม่เหล็ก ไม่มีล้อ ไม่มีเบรก ไม่มีระบบส่งกำลัง และถูกยกให้ลอย โดยใช้กลไกสนามแม่เหล็กยกให้สูงขึ้นจากรางประมาณ 1-10 มิลลิเมตรแล้วแต่จังหวะการวิ่ง
.
2. Fuxing Hao CR400AF/BF จากประเทศจีน
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (249 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เป็นรถไฟความเร็วสูงทางไกลที่เร็วที่สุดในโลก โดยให้บริการเชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ภายในประเทศจีน สามารถจุคนได้ถึง 500 กว่าคน แบ่งห้องโดยสารออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ Business Class, First Class และ Second Class ซึ่งรถไฟรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ประเทศไทยให้ความสนใจและวางแผนว่าอาจจะนำมาใช้ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-โคราช
.
3. Harmony CRH 380A จากประเทศจีน
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (236 ไมล์ต่อชั่วโมง)
นับเป็นรถไฟล้อเลื่อนที่วิ่งได้เร็วเป็นอันดับสองของโลก ทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 486.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการวิ่งทดสอบแบบไม่มีผู้โดยสาร สามารถจุคนได้ประมาณ 494 คน ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทเอกชนของจีน ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากบริษัทเอกชนเยอรมนีและญี่ปุ่น ตัวรถผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ออกแบบส่วนหัวให้ลดแรงกดอากาศพลศาสตร์ขณะวิ่ง จุดเด่นคือ ไร้การสั่นสะเทือนระหว่างขับเคลื่อน มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โคมไฟอ่านหนังสือ ปลั๊กไฟ โทรทัศน์ จอ LED พร้อมมีบาร์และเลานจ์ให้บริการด้วย
.
4. Shinkansen H5 and E5 จากประเทศญี่ปุ่น
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (224 ไมล์ต่อชั่วโมง)
หนึ่งในรถไฟความเร็วสูงที่คนไทยรู้จัก ให้บริการมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี เป็นรถไฟหัวกระสุนรุ่นล่าสุดที่เร็วที่สุด มีระบบลดเสียงรบกวนดีเยี่ยม เบาะนั่งทั้งหมดจะหันหน้าไปข้างหน้า มีทั้งแบบจองและไม่จอง รวมถึงมี JR Pass บัตรโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางในญี่ปุ่นแบบไม่จำกัดครั้ง ซึ่งทำให้การเดินทางประหยัดมาก มีศูนย์กลางอยู่กรุงโตเกียว และทอดยาวไปยังทางเหนือของซัปโปโร ไปจนถึงทางตอนใต้ของนางาซากิ มีเส้นทางให้บริการกว่า 9 เส้นทาง ไม่เพียงเท่านั้นจะมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการอีก 4 เส้นทางภายในปี 2566 นี้
.
5. AGV Italo จากประเทศอิตาลี
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (223.6 ไมล์ต่อชั่วโมง)
มีอีกชื่อว่า “Ferrari of the track” รถไฟสีแดงพลัมในสังกัดของ Ferrari ถือเป็นรถไฟความเร็วสูงที่เร็วที่สุดในยุโรป จุคนได้ประมาณ 245-460 คน ให้บริการบนเส้นทางระหว่างกรุงโรมกับเมืองเนเปิลส์ ระยะทาง 225 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง โครงสร้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 98% มีที่นั่ง 3 ชั้น มีโทรทัศน์ระบบถ่ายทอดสดและอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ให้บริการด้วย
.
6. Talgo 350 จากประเทศสเปน
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (217 ไมล์ต่อชั่วโมง)
มีชื่อเล่นอีกอย่างว่า “Pato” ภาษาสเปนแปลว่า เป็ด เนื่องจากด้านหน้ามีลักษณะโดดเด่นคล้ายปากเป็ด เปิดตัวครั้งแรกที่สเปน แต่พัฒนาโดยบริษัทเอกชนเยอรมัน เดิมมีชื่อว่า “AVE Class 102” จุคนได้ประมาณ 318-365 คน แบ่งห้องโดยสารออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ ห้องโดยสารชั้น 1 ห้องโดยสารร้านอาหาร และห้องโดยสารชั้นประหยัด แต่ละห้อง แต่ละที่นั่งมีโคมไฟอ่านหนังสือ และที่ชาร์จแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือ
.
7. Haramain Western Railway จากประเทศซาอุดีอาระเบีย
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (217 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ให้บริการในเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนาอิสลามในประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างกรุงเมกกะห์ และเมืองเมดินะห์ ช่วยลดเวลาการเดินทางเหลือไม่เกิน 2 ชั่วโมง ประกอบด้วยรถไฟทั้งหมด 35 ขบวน แต่ละขบวนรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 400 คน และคาดว่าแต่ละขบวนจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ประมาณ 60 ล้านคนต่อปี
.
8. Deutsche Bahn ICE จากประเทศเยอรมนี
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (205 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ให้บริการในเส้นทางที่เชื่อมต่อจากเบอร์ลิน ไปยังมิวนิก ฮัมบูร์ก สตุ๊ตการ์ต และเมืองสำคัญอื่น ๆ ของเยอรมนี รวมถึงสามารถนั่งไปออสเตรีย บรัสเซลส์ อัมสเตอร์ดัม และสถานที่อื่นๆ นอกเยอรมนีได้อีกด้วย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 450 ที่นั่ง ทำงานบนแนวคิดรถพลังงาน เป็นนวัตกรรมใหม่มีเพลาขับเคลื่อนมากถึง 24 เพลา ทำให้รถใช้พลังงานน้อยลงถึง 30%
.
9. Korail KTX จากประเทศเกาหลีใต้
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (205 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อีกหนึ่งรถไฟความเร็วสูงที่หลายคนน่ารู้จักกันดี ให้บริการสถานีหลักที่กรุงโซล เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ ภายในประเทศเกาหลีใต้ และสิ้นสุดเส้นทางทิศใต้ที่เมืองปูซาน รถไฟเป็นการอัปเดตจาก KTX-I รุ่นก่อนหน้า ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้รับการออกแบบและสร้างในเกาหลีใต้ และนับว่าเป็นรูปแบบการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากคนเกาหลีอย่างมาก
.
10. Eurostar E320 จากประเทศอังกฤษ
ความเร็วสูงสุด (ที่วิ่งให้บริการจริง) : 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (200 ไมล์ต่อชั่วโมง)
หรืออีกชื่อคือ “British Rail Class 374” ตกแต่งภายในโดย Pininfarina สไตลิสต์ยานยนต์ชื่อดังชาวอิตาลี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 900 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 20 ที่นั่งจาก Eurostar e300 รุ่นก่อน สามารถเดินทางระยะทาง 305 ไมล์ ได้ภายใน 2 ชั่วโมง 16 นาที ด้วยความเร็วสูงสุด 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ความพิเศษคือ การลอดอุโมงค์ Euro Tunnel อุโมงค์ใต้ทะเลที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะอังกฤษและยุโรปตะวันตก ได้แก่ ฝรั่งเศส เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์
.
จากทั้ง 10 อันดับข้างต้น จะเห็นว่า จีน สามารถครองอันดับรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกได้ถึง 3 อันดับแรก แม้ไม่ได้เป็นประเทศแรกที่ให้กำเนิดรถไฟความเร็วสูง แต่ก็นับว่าจีนสามารถก้าวกระโดดจากการเป็น ผู้เรียนรู้ มาสู่ ผู้สร้าง และที่สำคัญกำลังจะกลายเป็นผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยีการขนส่ง “รถไฟความเร็วสูง” อย่างเต็มตัว ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งจีนและประเทศอื่นๆ ต่างกำลังเร่งพัฒนาให้รถไฟความเร็วสูงในประเทศของตนเองสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 400 เป็น 500 และ 600 ไม่แน่ในอนาคตเราอาจได้เห็นรถไฟความเร็วสูงที่เร็วเทียบเท่าเครื่องบินก็ได้
.
สำหรับรถไฟความเร็วสูงของไทย ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนานั้น จากแผนงานของภาครัฐ คาดว่าเส้นทางแรก กรุงเทพฯ-หนองคาย จะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2568
หรืออีก 4 ปีข้างหน้านี้ เราทุกคนจะได้ยลโฉมและได้ใช้บริการรถไฟความเร็วสูงของไทยครั้งแรกหลังจากที่รอคอยกันมานาน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในระบบขนส่งและคมนาคมที่จะช่วยอำนวยความสะดวก ลดเวลาการเดินทางให้คนไทยได้มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ก็ไปได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะทุกที่ก็อยู่แค่หน้าปากซอยเท่านั้น!
.
ที่มา : https://www.beautifullife.info/automotive-design/top-10-fastest-trains-in-the-world/
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS #อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#รถไฟความเร็วสูง #HighSpeedRail #HSR
#ระบบขนส่ง #การขนส่ง #การคมนาคม
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過76萬的網紅Singha ha Channel,也在其Youtube影片中提到,Facebook หรือ ติดต่อ โฆษณา https://www.facebook.com/SinghahaChannel รถไฟ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการเดินทาง แต่ทราบไหมว่า รถไฟที่มีความเร็วมากที...
「talgo 350」的推薦目錄:
talgo 350 在 Singha ha Channel Youtube 的精選貼文
Facebook หรือ ติดต่อ โฆษณา https://www.facebook.com/SinghahaChannel
รถไฟ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการเดินทาง แต่ทราบไหมว่า
รถไฟที่มีความเร็วมากที่สุดในโลก นั้นคือรถไฟจากประเทศใด และจะเร็วขนาดไหน วันนี้ เราจะพาไปดู 10 อันดับรถไฟที่เร็วที่สุดในโลก ที่คุณจะต้อง ทึ้งง แน่นอน
1. Japanese maglev L0series ( japan )
2. TGV ( france )
3. Shanghai maglev ( China )
4. CRH380A ( China )
5. N700 series shinkansen ( japan )
6. HEMU 430X (South korea)
7. Frecciarossa 1000 (Italy)
8. TALGO 350 (spain)
9. ICE 3 (Germany)
10. THSR 700T (Taiwan)
talgo 350 在 Fastest Trains In The World - Facebook 的推薦與評價
AVE Talgo-350, Spain The AVE Class 102 is a class of AVE high-speed trains for the Spanish state-run railway company RENFE that connect Madrid – Málaga... ... <看更多>
talgo 350 在 Talgo 350 | Train, Locomotive, Vehicles - Pinterest 的推薦與評價
Talgo 350 Transportation Technology, High Speed Rail, Rail Transport, Electric Locomotive, Futuristic. vivian ho. 92 followers. More information. ... <看更多>